วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ความจริง kookmin

สัมผัสอ่อนโยนของคนที่กำลังปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของผมออก มันช่างขัดกับใบหน้าเรียบนิ่งที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา เห็นท่าทีแบบนี้ผมก็รู้ทันทีว่าเขาต้องการอะไร นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ไม่ใช่ครั้งที่สอง และก็คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เรามีความสัมพันธ์ทางกายกัน




จะเรียกแบบนั้นได้ไหม ในเมื่อผมไม่เคยเต็มใจที่จะทำมันเลยสักครั้ง ถึงแม้ว่าท้ายสุดแล้วผมจะโอนอ่อนและเล่นตามบทรักที่เขามอบให้ก็ตาม




"ฮะ..ฮึก"




เสียงสะอื้นยังคงมีอยู่ในลำคออย่างหยุดไม่ได้ มันเจ็บร้าวเหมือนโดนเศษแก้วบาดเฉือนซ้ำๆตรงรอยแผลเก่า เจ็บที่เห็นเขารักกัน เจ็บมากจริงๆ ทั้งที่ควรยิ้มยินดีที่เห็นแทฮยองกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแต่มันก็อดที่จะร้องไห้ไม่ได้ กลั้นน้ำตาไม่ไหว




ต้องขอบคุณคนๆนี้ไหมที่พาผมออกมาจากที่ตรงนั้น




ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่เรียกผมไปเห็นภาพแบบนั้นก็ตามเถอะ




นิ้วโป้งสากเกลี่ยน้ำตาจากข้างแก้มแผ่วเบาเรียกให้ผมตื่นจากภวังค์ เลื่อนสายตากลับไปมองคนบนตัวก็พบกับสายตาที่อ่านไม่ออก วูบหนึ่งที่ผมรู้สึกว่ามันเศร้าจนแทบจะร้องออกมา แต่ผมก็เลือกที่จะไม่สนใจ




หลายครั้งที่คิดว่าเขาอาจจะรักผม


แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขาทำร้ายผม




ริมฝีปากหนากดจูบลงตรงที่เดียวกับปลายนิ้ว จากนั้นก็เลื่อนไปคลอเคลียทั่วใบหน้า มันเป็นความรู้สึกวาบหวามที่ผมไม่เคยได้รับ กลีบปากที่กดจูบย้ำๆตรงปากของผม จนผมอดที่จะเผยอปากรอรับลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาไม่ได้




"อืมม"




เสียงครางน่าอายดังขึ้นเมื่ออีกคนไล้ลิ้นสำรวจไปจนทั่วโพรงปากจนน้ำใสไหลย้อยออกจากมุมปากแต่คนตัวใหญ่กว่าก็ยังตามมาจูบซับมันออก ผมหอบแฮ่กอย่างเหนื่อยอ่อนจิตใจเต้นรัว แม้จะเคยทำแบบนี้กันมานักต่อนักแต่เขาก็ไม่เคยอ่อนโยนขนาดนี้ อ่อนโยนจนผมกลัว




"อือออออ"




ปากหนาไล่กดจูบและฝากรอยดูดจากลำคอของผมลงจนถึงอก ก่อนจะระรัวลิ้นกับยอดอกของผมทั้งสองข้างสลับกันไปมาอย่างเชื่องช้า กางเกงขายาวหลุดออกจากตัวของผมนานแล้ว นิ้วเรียวยาวที่ผมรู้ว่ามันทำหน้าที่เบิกทางแซะเข้าตรงช่องทางด้านหลังของผม




"อ่ะ..อึก"




จากประสบการณ์ทำให้ผมรู้ว่าควรโอนอ่อนตามจะได้ไม่ทำให้ตัวเองเจ็บ พยายามผ่อนลมหายใจไม่ให้เกร็งแต่ก็อดจะรู้สึกอึดอัดจนต้องนิ่วหน้าไม่ได้ จากหนึ่งนิ้วเป็นสองและจากสองเป็นสาม นิ้วที่แยกออกจากกันในช่องทางขยับเข้าออกช้าๆเหมือนกลัวว่าผมจะแตกร้าวไปมากกว่านี้




แต่มันช้าไปไหม..

ในเมื่อเขาทุบแก้วอย่างผมจนแตกละเอียดไปนานแล้ว




"อ๊ะ..อ่าาาา"




เป็นอีกครั้งที่ริมฝีปากของอีกคนกดจูบลงที่ข้างขมับราวกับปลอบประโลม ในอกของผมสั่นไหวรุนแรงไม่ใช่เพราะความหวาดกลัวเหมือนที่ผ่านๆมา ผมเงยมองหน้าอีกคนด้วยสายตาสับสน เขาเป็นอะไร..?




ยิ่งทำแบบนี้ผมยิ่งอึดอัด




"ขะ..เข้ามา แฮ่กๆ..เข้ามาได้แล้ว"




ผมอ้าขาออกกว้างเชิญชวนอีกคนอย่างจงใจ นี่เป็นครั้งแรกเช่นกันที่ผมอยากให้เขาเข้ามาเร็วๆ เข้ามาในตัวผม อยากให้เขาทำรุนแรงกับผมเหมือนเดิมเพราะผมเกลียดความรู้สึกนี้ ในอกมันเหมือนจะระเบิดออกมา ผมไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร




อีกคนทำตามอย่างว่าง่ายค่อยๆถอนนิ้วออกก่อนจะจ่อแก่นกายร้อนเข้าที่ช่องทางและค่อยๆกดเข้ามาอย่างช้าๆ ผมหายใจติดขัดเกร็งไปทุกส่วนความเสียววิ่งวนจากปลายเท้าขึ้นมาจนถึงกลางหัว เสียวสันหลังวาบจนรู้สึกเย็นยะเยือกทั้งที่ในรถร้อนจนเหนอะหนะ




"ระ..เร็วๆ เข้ามา..อ๊ะ เร็วๆ อ๊าาาา!!"




ผมทนไม่ไหวกับความเสียวที่ได้รับเอ่ยร้องขอน้ำเสียงกระเส่า ซึ่งอีกคนก็ยังคงว่าง่ายอย่างเคยกดกระแทกส่วนนั้นเข้ามาจนสุดจนเกิดเสียงดังลั่นรถ ความเสียวแล่นจี๊ดจนผมเกร็งกระตุกพ่นน้ำเชื้อออกมาเลอะหน้าท้องแกร่งทั้งที่เขาพึ่งเอาเข้ามายังไม่ถึงสิบวิ




"แฮ่กๆๆ อึก.. นา..นาย"




ไม่รู้ว่าแกล้งหรืออะไร เขายังคงแช่แก่นกายนิ่งค้างไว้อยู่แบบนั้น กลับเป็นผมเสียเองที่ต้องการเขามากขึ้นจนแทบทนไม่ไหว ต้องเอ่ยเรียกเสียงแผ่วปนเสียงหอบเหนื่อย ฝ่ามือใหญ่เอื้อมมาแนบที่แก้มผมและลูบไปมาอย่างอ่อนโยน




มันเป็นความอ่อนโยนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นความรู้สึกที่ผมไม่คิดว่าจะได้รับจากคนๆนี้ น้ำตาเอ่อไหลออกมาอีกครั้ง มันไม่ใช่เพราะเจ็บจากแทฮยอง แต่ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร และผมก็ไม่อยากคิดหาคำตอบจากมัน




"ขยับ..ขยับทีนะ อึก..ไม่ไหวแล้ว"




ผมเอ่ยร้องขอสิ่งที่น่าอายออกไป ทั้งที่ผมพยายามหนีจากมันมาตลอด แต่ตอนนี้ผมกลับโหยหาเขาจนไม่ไหว ยกมือขึ้นไขว่คว้าหวังจะดึงอีกคนลงมาจูบแต่เขากลับยิ้มให้อย่างอ่อนแรง เหมือนจะเห็นน้ำตาที่เอ่อคลอในดวงตาคมดุผ่านม่านน้ำตาของผม




"อ๊ะ..อื้ออ"




ยังไม่ทันหาคำตอบว่าสิ่งที่เห็นมันเป็นเรื่องจริงหรือภาพลวงตา ผมก็ต้องผวาเฮือกแอ่นสะโพกรับสัมผัสที่โจนจ้วงเข้ามาอย่างหนักหน่วง ทั้งที่มันเป็นแรงกระแทกหนักๆแต่ผมกับรู้สึกว่ากำลังถูกกอดอย่างบางเบา




"อ๊ะ..อ่ะ แฮ่กๆ แรง..แรงๆ"




ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก




เสียงกระแทกดังลั่นไปทั่วรถ แรงจนหัวสั่นหัวคลอนแต่กลับรู้สึกดีกว่าตอนที่อีกคนอ่อนโยนใส่ ผมหายใจหอบส่งเสียงครวญครางเชิดหน้ารับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ ปรือตามองกลับเห็นความเศร้าฉายชัดบนใบหน้าอีกคนอีกครั้ง จนเมื่อเขารู้ว่าผมมองก็ยิ่งกระแทกกระทั้นเพิ่มความเร็วเสียจนผมตั้งตัวแทบไม่ทัน




"อ๊ะ..อ๊าาา อ่ะ..ลึก อ่ะ..ลึกไปแล้ว"




ทั้งที่เอ่ยบอกแบบนั้นแต่ผมกลับอ้าขาแยกออกกว้างขึ้นให้เขาเข้ามาได้ลึกกว่านั้น และมันก็เข้าลึกสุดจนเสียวไปทั้งตัว ผมเกร็งตัวน้ำตาเล็ดจนไหลเปรอะข้างแก้ม แม้จะรับศึกหนักแต่ในหัวก็สลัดเรื่องของเขาออกไปไม่ได้เลย ไม่ใช่เรื่องของแทฮยอง แต่เป็นเรื่องของ จอน จองกุก คนที่กำลังกอดผมอยู่ตอนนี้




ในตอนที่กอดผม เขาคิดอะไรอยู่กันนะ




"จีมิน"




"อ่ะ..อื้อออ อ๊ะ.."




"เรียกฉัน เรียกชื่อฉัน"




"จอง อ๊ะ..จองกุก จองกุก..อ่ะ"




"อืมม"




ผมส่งเสียงกระท่อนกระแท่นเรียกชื่อเขาตามคำร้องขอ ยื่นแขนทั้งสองข้างคว้าโอบรอบคออีกคนไว้เพราะไม่อยากจะเห็นใบหน้าที่เจ็บปวดนั่นอีกแล้ว ทำไมผมต้องเจ็บหน่วงในใจที่เห็นใบหน้าแบบนี้ของเขาด้วย




"ฮะ..อ่าาาาาห์ จองกุก อ๊ะ..จอง"




มือหนากอบกุมส่วนอ่อนไหวของผมพร้อมกับรูดรั้งหนักๆพร้อมกับแรงกระแทกที่เอว ผมผวาตัวเฮือกเด้งสะโพกรับแรงกระแทก กอดรัดรอบคอแน่นขึ้น เหงื่อกาฬไหลท่วมตัวจนกระทั่งความเสียวแล่นไปอยู่ตรงส่วนอ่อนไหวและเป็นอีกครั้งที่ผมกระตุกกายพ่นน้ำขาวขุ่นออกมาเลอะทั่วมือหนา




"จอง..อ๊ะ..จองกุก อ๊าาาาาา"




แต่คนตัวโตก็ยังไม่หยุดสะโพกหรือลดความเร็วลง ยังคงส่งแรงกระแทกอยู่แบบนั้นนานนับสิบนาที ก่อนที่ผมและเขาจะกระตุกเกร็งและพ่นน้ำออกมาพร้อมๆกัน ความอุ่นร้อนปะทุเข้าช่องทางจนเผลอเกร็งตัวบีบรัดแก่นกายที่ยังรีดน้ำทุกหยาดหยดก่อนจะนิ่งไป




"แฮ่กๆ จะ..จองกุก จูบ ..แฮ่ก จูบหน่อย"




เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่ผมเรียกร้อง อาจจะเป็นเพราะผมติดกับความอ่อนโยนของเขา หรือไม่ก็ความเศร้าในแววตาของเขาก็ได้ อีกคนส่งสายตาแปลกใจมาให้แต่ก็ค่อยๆโน้มหน้าเข้ามากดจูบที่ริมฝีปากของผม




แต่ผมกลับผลักเขาออกเบาๆแล้วพยายามขยับตัวขึ้นไปนั่งคร่อมตักของเขาแทนทั้งที่แก่นกายของเขายังคงค้างคาอยู่ในช่องทางของผมแบบนั้น ลิ้นร้อนเล็มเลียไปตามช่องว่างของกลีบปาก ก่อนจะแทรกเข้ามาอย่างช้าๆ มันวูบโหวงในอกแปลกๆแต่ก็วาบหวามจนผมเองก็รู้สึกว่าช่องทางของตัวเองตอดรัดแก่นกายของเขาอีกครั้ง




ผมได้ยินเสียงกัดฟันกรอดของเขาเบาๆ ก็พอเข้าใจเหตุผลดีแต่เมื่อสายตาของผมมองออกไปนอกรถ เห็นนักศึกษาหลายคนมองมาที่รถด้วยความสงสัยตัวก็ชาวาบขึ้นมา พึ่งระลึกได้ว่านี่คือในมหาลัย และรถคงจะสั่นไหวจนคนมองเห็น




"ฮึก"




หลุดสะอื้นด้วยความอายออกมาโดยอัตโนมัติ ทุกคนต้องรู้ว่านี่คือรถของจองกุก และจองกุกที่ดึงมือผมตามมาจะไปมีกิจกรรมเข้าจังหวะกับใครได้ถ้าไม่ใช่ .. กับผม
คิดได้แบบนั้นก็รีบถอนริมฝีปากออกแนบหน้าลงกับไหล่กว้างส่งเสียงอู้อี้แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน




"กลับบ้าน อยากกลับบ้าน"




มือหนาลูบไปตามไขสันหลังของผมเบาๆ ไม่รู้ว่านี่คือการปลอบโยนหรือเปล่า แต่พอเขาจะผละตัวออกผมกลับรู้สึกโหวงในใจขึ้นมาอีกครั้งจนต้องรีบยกมือกอดรอบคอเขาไว้แน่น




"กอด กอดฉันแน่นๆ"




นี่ผมเป็นบ้าอะไรกันนะ ถึงได้มานั่งร้องขออะไรแบบนี้กับคนที่ข่มขืนผมอย่างโหดร้ายแบบนั้น




นายมันบ้า ปาร์ค จีมิน




และนายคงจะบ้ามาก ที่คิดสงสารคนที่ทำร้ายนาย







กลับไปอ่านที่หน้าหลักได้เลยค่า~